การเตรียมตัว

เมื่อรู้แน่แท้และแน่นอนแล้วว่าจะต้องไปเป็นทหาร ก็ต้องเตรียมตัวกันหน่อย เพราะจะต้องไปฝึกทหารใหม่เป็นเวลา 2 เดือน เป็น 2 เดือนที่จะไม่มีการติดต่อสือสารจากภายนอก ไร้ซึ่งข้อมูลข่าวสารมากระทบการรับรู้

คือตอนนี้ผมก็ยังไม่มีประสบการณ์ แต่เท่าที่สอบถามมาว่าควรจะเตรียมตัวอย่างไร ก็ได้คำตอบว่า

ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมากหรอก เตรียมใจอย่างเดียว (ฮา)

ซึ่งจริงๆ ก็เป็นอย่างนั้น เพราะเขาจะไม่ให้เราอะไรไปเลย พวกของใช้ส่วนตัวเขาจะมีให้ทั้งหมด (แม้แต่กางเกงใน) ถ้าพกอะไรไป เขาก็จะให้ฝากไว้ในวันแรก (เรียกง่ายๆ ว่ายึด) แล้ววันกลับจากการฝึกค่อยเอาคืน เงินสด หรือมือถือ ก็ห้ามพก (คงกลัวทหารหนี ฮ่าๆ) แต่ผมก็ตั้งใจว่าจะเอาไปเผื่อฉุกเฉิน

พี่ทหารคนที่ผมไปถามเขาก็แนะนำว่า วันที่ไปส่งตัวทหารก็ควรใส่เสื้อผ้าเก่าๆ แบบถ้าจะทิ้งก็ไม่เสียดาย เพราะตลอดเวลาการฝึกเราจะต้องใส่ชุดที่เขามีให้ ทั้ง ชุดนอน ชุดลำลอง ชุดฝึก ชุดทหาร รองเท้า ถุงเท้า มีให้หมด อุปกรณ์อาบน้ำ แปรงฟัน โกนหนวด ก็มีให้ เพราะฉะนั้นจึงไม่ต้องเอาอะไรไปเลย มือถือถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องเอาไปก็ได้ จริงๆ ก็แค่สำหรับคนที่กลัวหาย เพราะเขาจะยึด (รับฝาก) ไว้ แต่ผมก็เอาเครื่องถูกๆ เน่าๆ ไป ส่วนเงินสด ก็พกติดตัวไปสักร้อยสองร้อยก็พอ เผื่อไว้ใช้ฉุกเฉินหรือเผื่อไว้เป็นค่ารถในวันกลับ

ตอนนี้ผมก็ยังไม่รู้อะไรมากนัก ต้องรอพรุ่งนี้ (1 พ.ค. 2553) เสียก่อน เพราะจะเป็นวันที่ผมเดินทางไปฝึกทหารของจริง (กลับมาจะเล่าให้ฟังต่อว่าเป็นยังไง)

ใครที่สูบบุหรี่ (อย่างผม) เขาบอกเลยว่าห้ามสูบ เพราะการสูบบุหรี่จะเป็นอุปสรรคต่อการออกกำลังกาย โดยเฉพาะการใช้ร่างกายหนักๆ อย่างการฝึกทหารอาจทำให้เจ็บหน้าอกได้ ผมว่าก็เป็นเหตุผลที่ดี ผมก็เลยลดและเลิกสูบบุหรี่ก่อนไป

ก็ขอเตือนเลยสำหรับคนสูบบุหรี่ ว่าทางที่ดีควรจะลด หรือเลิกไปเลยก่อนไป เพราะการไปทั้งๆ ที่ยังเลิกไม่ได้มันน่าจะทรมานเวลาเสี้ยน แต่ถ้าลดได้บ้าง อาจจะเป็นผลดี เพราะช่วงที่อยากสูบบางทีเราจะทดแทนด้วยการออกกำลังกายแบบเสียเหงื่อเยอะๆ ซึ่งจะทำให้เลิกได้ง่าย และเลิกได้ในที่สุด การฝึกทหารก็อาจทำให้เลิกบุหรี่ได้เลย หรือถ้าใครที่เลิกได้ก็ดีใจด้วย (ส่วนจะกลับไปสูบอีกหรือเปล่าก็แล้วแต่)

สำหรับผม ผมเลิกสูบก่อนไปประมาณ 3 วัน เพราะผมเคยพยายามเลิกมาครั้งหนึ่งแล้วพบว่า ช่วงแรกๆ ที่ไม่ได้สูบนั้น ร่างกายจะกระสับกระส่าย หงุดหงิดง่ายเวลาต้องใช้สมอง (เช่นเวลามีเรื่องกวนใจหรือเวลาทำงาน) แล้วกล้ามเนื้อจะกระตือรือร้นมาก ผมก็ออกไปวิ่ง แล้วก็วิ่งไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย จนขาล้าแทบหมดแรง แต่ก็ยังไม่หอบเท่าไร แสดงว่าปอดและหัวใจกำลังปรับตัว ซึ่งก็หมายความว่า การสูบบุหรี่นั้นเปลืองพลังงานปอดและหัวใจอย่างมาก แต่พอเลิกไปได้ประมาณอาทิตย์นึง ก็ไม่เป็นแบบนั้นแล้ว นอกจากจะออกกำลังกายต่อจนร่างกายเสพติดการออกกำลังกายแทน (แต่ผมกลับเลือกกลับมาสูบ เพราะตอนนั้นแค่อยากลองเลิก ไม่ได้อยากเลิกจริงๆ)

เอาล่ะ ผมก็ไม่อยากจะโม้มากกับเรื่องฝึกทหาร เพราะยังไม่มีประสบการณ์ตรง เอาไว้จะมาให้ข้อมูลอีกทีแล้วกัน